Saturday, October 24, 2015

3RD ESA WORKSHOP ON ADVANCED FLEXIBLE TELECOM PAYLOADS

3RD ESA WORKSHOP ON ADVANCED FLEXIBLE TELECOM PAYLOADS

It is our pleasure to welcome you to the 3rd ESA Workshop on Advanced Flexible Telecom Payloads jointly organized by the European Space Agency’s directorates of Technical and Quality Management (TEC) and Telecommunications and Integrated Applications (TIA).

Established in 2008 the Workshop is a unique event aimed at presenting and discussing the latest technical and technological advances in satellite communications payloads with on board flexibility capabilities. The Workshop will address different aspects of on board payload flexibility at coverage, connectivity, channelisation and EIRP level with the objective to examine key system/payload architectures and related technologies that will allow a power, mass and cost effective implementation of future advanced satellite communications missions.

Workshop registration is open to worldwide satcom stakeholders, including  operators, manufacturers, research institutions and universities.

Papers and presentations will cover different technical and technological elements related to the implementation of future flexible telecom payload/systems, including:
  • Systems, applications and operators’ needs of flexible/generic payloads
  • Flexible Payload and System architectures
  • Flexibility for Large Constellations
  • Payload flexibility for dual-use and hosted payloads applications
  • Flexibility for interference management
  • Flexible RF power generation and output sections (e.g. flex-TWTA, Multiport Amplifiers, etc.) 
  • Reconfigurable antennas (active and passive) 
  • Digital on board processors and related technologies
  • Tunable frequency converters
  • Analogue (including optical) processor equipment and technologies 
  • Reconfigurable Filters, RF Switches and Switching Matrices
  • Payload Photonic Opportunities
  • Flexible Payload/System analysis, simulation and optimization tools

http://congrexprojects.com/2016-events/16c05/introduction


Sunday, October 11, 2015

Outlearning The Wolves - Animation

Business Intelligence หรือการหาองค์ความรู้ ขาดระบบสารสนเทศที่ดีไม่ได้

สร้างความสามารถในการแข่งขันด้วย Business analytics and research

   
ในโลกของธุรกิจ (และโลกของราชการ) ทุกวันนี้มีข้อมูลมากมาย เราเข้าไปซื้อของ ไปใช้บริการ มีการใช้ Barcode scanner เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ เราท่อง Website ก็ถูกเก็บข้อมูลตลอดเวลา เราจับจ่ายใช้สอยก็ต้องมีการบันทึกข้อมูลการใช้บัตรเครดิตของเรา เราไปธนาคารหรือใช้บริการ internet banking ข้อมูลธุรกรรมต่างๆ ของเราก็ถูกบันทึกไว้ตลอดเวลา เรามีข้อมูลมากมาย มีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย มีความเร็วในการประมวลผลสูงมาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน หน้าที่ของคนทำงานด้าน business analytics ไม่ใช่เป็นนักสถิติธรรมดาๆ ไม่ใช่นักคอมพิวเตอร์ แต่เราทำหน้าที่วิเคราะห์ธุรกิจ โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์จำนวนมหาศาล เพื่อนำมาสกัดหาสารสนเทศและท้ายที่สุดคือปัญญาทางธุรกิจ (Business Intelligence) ที่จะนำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive advantage)
       
       สมมุติว่าเราเข้าไปซื้อสินค้าให้ห้างสรรพสินค้า หากเราสมัครสมาชิกบัตรลดของห้างสรรพสินค้า จะทำให้ห้างสรรพสินค้า รู้ว่าเราคือใคร และถ้าเรากลับมาซื้ออีก ห้างสรรพสินค้าสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมในการซื้อของของเรา พฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอย ประเภทของสินค้าที่ซื้อ เช่น วิเคราะห์ว่าเราชอบซื้อสินค้าอะไร ควบคู่กับสินค้าอะไรด้วยการวิเคราะห์ตะกร้าของตลาด (Market Basket Analysis) ทำให้ทราบว่าควรจะนำสินค้าอะไรมาวางคู่กัน จัดพื้นที่ขายได้ดีขึ้น (Space management) ถ้าหากจะโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์หรือจัดโปรโมชั่น ก็จะได้ทราบว่าควรจะเสนอขายอะไรกันแน่ เรายังสามารถวิเคราะห์จัดกลุ่มทางการตลาด (Market segmentation) จากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยได้อีก ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น เป็นการจัดการความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ทำให้เกิดความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดโดยอาศัยความรู้จากปัญญาและการวิเคราะห์ทางการตลาด (Marketing analytics and intelligence) และปัญญาและการวิเคราะห์ลูกค้าสัมพันธ์ (Customer relationship management analytics and intelligence)
       
       จำนวนธุรกรรมในแต่ละช่วงเวลา การเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลสินค้าคงเหลือและข้อมูลขายจะสามารถนำมาใช้วิเคราะห์เพื่อจัดผังหรือตารางการทำงานของพนักงานให้ลูกค้าใช้เวลารอคอยน้อยลง คำนวณระดับสินค้าคงเหลือที่เหมาะสมที่สุด คำนวณระดับการสั่งซื้อสินค้าที่เหมาะสมทันเวลา บริหารห่วงโซ่อุปทานได้เหมาะสมเป็นต้น ทั้งหมดนี้อาศัยความรู้ด้านปัญญาและการวิเคราะห์การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain management analytics and intelligence)
       
        ด้วยข้อมูลเดียวกันนี้ หากแผนกทรัพยากรมนุษย์ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าวมีระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human resource information system) และนำมาเชื่อมโยงกับข้อมูลการขายการตลาด ก็สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่าพนักงานขายในห้างสรรพสินค้าที่จะมียอดขายสูงนั้นควรมีลักษณะเช่นใด เช่น ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนทดสอบบุคลิกภาพของพนักงานกับยอดขาย เราอาจจะได้ข้อค้นพบที่น่าประหลาดใจเช่น พนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าที่มีบุคลิกภาพแบบไม่เปิดเผยตัวเอง (Introvert) ซึ่งจะค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยพูด ไม่เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ก่อนง่ายๆ กลับมียอดขายสูงกว่าพนักงานขายที่มีบุคลิกภาพแบบเปิดเผยตัว (Extrovert) ซึ่งชอบเข้าหาคน มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง ปัญญาและการวิเคราะห์ด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human resource analytics and intelligence) นี้ช่วยให้เราสามารถคัดเลือกบุคลากรได้เหมาะสมมากขึ้น รู้แนวทางในการพัฒนาบุคลากรได้ดีขึ้นเช่นกัน และนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นด้วย
       
        ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อาจจะออกบัตรเครดิตของตัวเอง โดยร่วมมือกันกับธนาคารพาณิชย์ สิ่งที่ห้างสรรพสินค้าและธนาคารพาณิชย์ต้องร่วมกันคือป้องกันไม่ให้เกิดการลักลอบนำบัตรเครดิตไปใช้ (Fraud) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทั้งตัวเองและต่อตัวลูกค้าด้วย โดยวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติของธุรกรรมในการใช้จ่ายบัตรเครดิตนั้นๆ ว่ามีความผิดปกติประการใดหรือไม่ เช่น ใช้บัตรเครดิตเป็นจำนวนมากผิดปกติกว่าที่เคยใช้ หรือรูดบัตรเครดิตต่อเนื่องติดกันโดยไม่ได้เว้นจังหวะซึ่งผิดปกติ นอกจากนี้ก่อนออกบัตรเครดิตก็ต้องมีการตรวจประวัติ อนุมัติวงเงินเครดิต ซึ่งสามารถอาศัยความรู้ด้านปัญญาและการวิเคราะห์การจัดการความเสี่ยงเชิงปริมาณ (Quantitative risk management analytics and intelligence) ซึ่งป้องกันความสูญเสียทางการเงินทำให้สร้างความสามารถในการทำกำไรและการแข่งขันได้
       
        เมื่อห้างสรรพสินค้าแห่งนี้สามารถทำกำไรได้ดี ก็อาจจะต้องมีการบริหารการเงินที่ดีด้วย จะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไร จะพยากรณ์ทางการเงินให้สามารถบริหารเงินทุนหมุนเวียนได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้กิจการมีสภาพคล่องไม่ขาดเงิน ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนของทุนหมุนเวียนเฉลี่ยต่ำสุดเป็นต้น ซึ่งต้องอาศัยความรู้ด้านปัญญาและการวิเคราะห์การเงิน (Financial analytics and intelligence)
       
        ท่านคงจะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย นำไปสู่ ปัญญาทางธุรกิจ (Business Intelligence) ซึ่งจะช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี ในโลกปัจจุบันมีข้อมูลมากมาย แต่ข้อมูลจะมีคุณค่านำมาใช้สร้างความสามารถในการแข่งขันได้ก็ต่อเมื่อมีความรู้ด้านการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้หลากหลายประเภทแม้กระทั่งการบริหารงานของภาครัฐ ซึ่งต้องใช้ความรู้เหล่านี้ในการวางแผนและการร่างนโยบายเช่นเดียวกัน 

Business Intelligence หรือการหาองค์ความรู้ ขาดระบบสารสนเทศที่ดีไม่ได้
 หลายหน่วยงานมีการพูดถึงการหาองค์ความรู้เพื่อมาใช้ในการทำธุรกิจ หรือการหาความชาญฉลาดทางธุรกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งทางการค้าและหารายได้ให้กับหน่วยงานตนเอง หน่วยงานต่างๆ ได้สนใจเทคโนโลยีที่เรียกว่า Big Data ซึ่งในความเป็นจริงคือการทำคลังข้อมูล ในการทำคลังข้อมูลนี้เราต้องยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลปริมาณมากๆ ที่ถูกจัดเก็บอยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยงาน เราจึงต้องมีเทคโนโลยีที่มาบริหารจัดการข้อมูลปริมาณมากๆ ทั้งนี้วิธีการจัดการข้อมูลในฐานข้อมูลก็ยังคงใช้แนวคิดเดิมคือ Relational Database Management เพียงแต่จะต้องทำให้ระบบจัดการฐานข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้สามารถดึงข้อมูลปริมาณมากตามที่หน่วยงานต้องการได้ไว แต่ทั้งนี้การหาองค์ความรู้ไม่ได้ต้องการข้อมูลในรูปของแต่ละรายการทางธุรกิจ หรือ Transaction เท่านั้น ในการหาองค์ความรู้แต่ละอย่างหน่วยงานต้องระบุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ หรือต้องเข้าใจองค์ความรู้ที่ตนเองต้องการจะหาระดับหนึ่ง เพื่อที่จะสามารถระบุข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องและต้องใช้เพื่อหาองค์ความรู้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจมาจากฐานข้อมูลหลายฐานข้อมูล หรืออาจจะต้องมีการคัดกรอง ทำความสะอาด และจัดเตรียมให้พร้อมก่อนเอามาวิเคราะห์โดยใช้เทคนิค Data Mining ก่อนจะแปลผลจากการวิเคราะห์ไปในเชิงธุรกิจเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
       
       การดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ การรวมข้อมูลจากหลายแหล่งให้เป็นชิ้นเดียวกัน การทำความสะอาดข้อมูลไม่ให้มีข้อมูลผิดปกติหรือข้อมูลขาดหาย และการเตรียมข้อมูลให้พร้อมโดยการแบ่งเป็นชิ้น หรือการรวมข้อมูลให้มีความหมายเบื้องต้น เป็นกระบวนการสำคัญ ที่จะทำให้คุณภาพขององค์ความรู้ที่ต้องการจะได้สูง คลังข้อมูลจึงถูกนำมาจัดเก็บข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการดังกล่าวมาแล้ว การออกแบบคลังข้อมูลและการจัดการคลังข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการได้องค์ความรู้มาใช้แข่งขันกับคู่แข่ง มิฉะนั้นเราจะได้องค์ความรู้ที่ผิดเพราะวัตถุดิบเริ่มต้นในการผลิตองค์ความรู้ไม่ดี เหมือนที่เราเคยได้ยินว่า “When you put the garbage in then you will get the garbage out.” ไม่ใช่องค์ความรู้ที่มีประโยชน์
       
       ท่านคงเห็นได้ว่าข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าเทคโนโลยี เราต้องเน้นที่คุณภาพของข้อมูล ถ้าข้อมูลคุณภาพดี โอกาสที่จะได้องค์ความรู้ที่ดี ที่มีประโยชน์ไปใช้ในการแข่งขันก็จะสูง ปัญหาของการได้ข้อมูลคุณภาพไม่ดีมีได้หลายสาเหตุ ส่วนหนึ่งมาจากการนำข้อมูลเข้าผิด ดังนั้นหน่วยงานจึงควรคำนึงถึงวิธีการลดปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ การบังคับให้บุคลากรในหน่วยงานนำข้อมูลเข้าให้ถูกคงเป็นไปไม่ได้ ระบบสารสนเทศที่ดีจะต้องสามารถตรวจจับและป้องกันการนำเข้าข้อมูลที่ผิดได้ แม้ว่าสุดท้ายบุคลากรที่ดูแลและเข้าใจข้อมูลส่วนนั้นะต้องเป็นคนตรวจสอบความผิดปกติของข้อมูลส่วนนั้นเอง ส่วนถัดมาที่ทำให้ข้อมูลมีคุณภาพไม่ดีคือการมีข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งหากมีจำนวนข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนจำนวนมากๆ แล้ว ในระหว่างทำความสะอาดข้อมูล รายการข้อมูลที่ขาด ไม่ครบถ้วน ไม่สมบูรณ์จะต้องถูกทิ้งไป ไม่เอามาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อหาองค์ความรู้ นั่นหมายถึงการทิ้งความรู้บางส่วนที่เกิดขึ้นจริง หรือทำให้ได้องค์ความรู้ไม่ครบหรือไม่สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ระบบสารสนเทศจึงถูกนำมาใช้เพื่อกำกับให้มีการเก็บข้อมูลที่สำคัญให้ครบถ้วน สมบูรณ์ เพื่อให้ได้รายการที่สมบูรณ์สำหรับนำมาวิเคราะห์เยอะที่สุด และส่งผลให้ได้องค์ความรู้ที่สมบูรณ์ ครบถ้วน สะท้อนความเป็นจริงในธุรกิจมากที่สุด
       
       แต่ที่สำคัญที่สุดหากผู้ออกแบบระบบสารสนเทศเข้าใจธุรกิจ หรือวัตถุประสงค์ในการนำองค์ความรู้ไปใช้ รวมทั้งเข้าใจเทคนิคในการทำการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากเพื่อให้ได้องค์ความรู้ไปใช้ให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันในเชิงธุรกิจ จะทำให้สามารถมองข้อมูลที่น่าจะใช้ในการหาองค์ความรู้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจ และลักษณะของข้อมูลที่ต้องการ นอกเหนือจากข้อมูลที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจปัจจุบันตามที่ระบุโดยผู้ใช้งานระบบ ดังนั้นเมื่อหน่วยงานต้องการจะหาองค์ความรู้ หน่วยงานก็จะมีข้อมูลเพียงพอหรือครบถ้วนสมบูรณ์ มาทำการวิเคราะห์ให้ได้องค์ความรู้ที่มีคุณค่า ซึ่งในปัจจุบันจะพบว่าข้อมูลที่สามารถนำมาวิเคราะห์หาองค์ความรู้หรือการทำ Data Mining นั้น มีปริมาณไม่ถึง 50% ของปริมาณข้อมูลตั้งต้นที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจำเป็นต้องใช้เพื่อประกอบการหาองค์ความรู้ 
        ระบบสารสนเทศที่ดีไม่ใช่แค่รวบรวมหรือออกแบบให้เก็บข้อมูลตามที่ผู้ใช้งานระบุในปัจจุบัน ระบบสารสนเทศที่ดีจะต้องสามารถรวบรวม จัดเก็บข้อมูลที่คาดว่าจะต้องใช้เพื่อหาความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจในอนาคตได้ด้วย ผู้ออกแบบระบบสารสนเทศที่ดีจึงควรจะต้องเข้าใจลักษณะธุรกิจที่ระบบสารสนเทศที่ตนเองออกแบบอยู่ให้ลึกซึ้ง และสามารถมองเห็นคุณค่าของข้อมูลในแต่ส่วนว่าสามารถนำไปใช้งานหรือหาองค์ความรู้อะไรได้บ้างในอนาคตโดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และสภาพการแข่งขันทางธุรกิจของหน่วยงาน นอกเหนือจากการทำความเข้าใจในงานของผู้ใช้ระบบสารสนเทศนั้นๆ แล้ว การเข้าใจเทคนิคต่างๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูลจะสามารถช่วยให้การออกแบบลักษณะของข้อมูลทำได้ถูกต้องมากขึ้น รวมทั้งต้องเข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพิ่มคุณภาพของข้อมูล หากผู้ออกแบบระบบสารสนเทศมีคุณลักษณะดังกล่าว จะทำให้ระบบสารสนเทศที่พัฒนาสามารถรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และเกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางธุรกิจเพื่อนำมาหาองค์ความรู้ ซึ่งแน่นอนหน่วยงานก็จะเกิดความคุ้มค่าในการลงทุนในการพัฒนาระบบสารสนเทศต่างๆ นับเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ระบบสารสนเทศจึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความชาญฉลาดทางธุรกิจให้กับหน่วยงานนั่นเอง

source : http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000109013

Friday, October 9, 2015

Thc - Systems Thinking Workshop : Activity Plan

Systems Thinking

Systems Thinking can mean different things to different people. It is more than just a set of tools : Causal loop diagram, …

It could mean a sensitivity to the circular nature of the world we live in;  an awareness of the role of structure in creating the conditions we face; a recognition that there are powerful laws of systems operating that we are unaware of; a realisation that there are consequences to our actions that we are oblivious to.

Systems Thinking  is a disciplined approach for examining problems more completely and accurately before acting. It allows us to ask better questions before jumping to conclusions.

Systems Thinking often involves moving from observing events or data, to identifying patterns of behaviour over time, to surfacing the underlying structures that drive  those events and patterns

Systems thinking perspective requires Curiosity, Clarity, Compassion, Choice and Courage.

Why Use Systems Thinking?
It expands the range of choices available for solving a problem by broadening our thinking and helping us articulate problems in new and different ways.

Principles of systems thinking make us aware that there  are no perfect solutions; the choices we make will have an impact on other parts of the system.


When Should We Use Systems Thinking?
Ideal problems or issues  for Systems Thinking
1. The issue is important
2. The problem is chronic, not a one time event
3. The problem is familiar and has a known history
4. People have unsuccessfully tried to solve the problem before

Where should we Start?
When beginning to address the issue, Avoid assigning Blame!!!  e.g. People often come late to the training. Therefore these people are at fault.

Instead, focus on items that people seem to be glossing over and try to arouse the group’s curiosity about the problem under discussion. e.g. Asking question “What is it about this problem that we don't understand? “

----------------------------------------------------------------------------------------

Six Steps to thinking systematically

ref:  Six Steps to Thinking Systemically, Michael Goodman & Richard Karash

In the face of day-to-day pressure, groups often leap to solutions after only a modest amount of brainstorming. A systematic approach provides a structured problem solving process for digging deeper into our most vexing problem.

These six steps are

1.Tell the story
2. Draw “Behaviour Over Times” graphs.
3. Create a focusing statement - A picture of what people want and a question about why certain problems are
4. Identify the structure - Draw Causal Loop Diagram
5. Going deeper into the issues - Look at the underlying issues in order to move from understanding to action
6. Plan the intervention - Might involve adding, strengthening, removing or weakening some of the  loops in the diagram to produce desired behaviour




How to coach and facilitate systems thinking ?

Systems thinking - A language for collective inquiry, learning, and action.

It is used in a group setting in order for people to learn together - To generate knowledge and understanding beyond what any one member of the group already know.


For facilitator,
Engage, don’t convince - We want everyone to be thinking hard about the problem at hand. It is important to get everyone engaged in creating a shared understanding.  Always suspend assumption, “Presume that every view has merit”, and “Pursue differences”
Treat Theory as Theory - Each drawn causal loop diagram is like a theory that needs to be validated. The validation could be done by asking “As you see it, how does X cause Y?    What is you rational? What are the data?  Can you give me an example?    Once obtain the answer, State your point of view and share your own line of reasoning.



--------------------------------------------------------------------------------


Systems Thinking - Practicing Case #1


Apply 6 steps to think systemically 


Tell a story

Bijou Bottling Company

The Bijou Bottling Company is a well-known beverage bottling company with an equally well-known problem: constant late shipments.

The customers, major chain retailers, are looking for "orders shipped complete" and on time. Some years ago, in a U.S. region covering about six states, this problem reached crisis proportions.

At Bijou, it was usually a customer call that kicked off the crisis.
 "Where the heck are the 40 cases of 2-liter baseball tie-in product?" 
And when they called, people jumped! Somehow the goods got there in time, often with heroic efforts! 

Looking back, it seems silly, but Bijou was air-shipping heavy soda bottles at enormous costs! Everyone, from distributors to plant managers to finance to truck drivers, could see that the problem was killing them. At the same time they said, "People build their careers on getting us out at the 11th hour of some terrible mess with our customers.”

Things began to change at Bijou when they started asking themselves, "We're pretty good at solving each problem as it arises. But why are these problems recurring more often and with more intensity? What's causing them?"



Question : What is the insight the members could get from this story?


2.  Draw “Behavior Over Time” graphs

Story telling focuses mostly on current moment.

Move to “Behavior Over Time” will connect present to the past  And move from seeing the events to recognising patterns over time.

Draw One variable per graph
Time span should include Past to Present but it can also include the Future projection 
3. Create a Focusing Statement  - Help setting direction of this process

Statement reflects a picture of what people want  OR questions why the certain problems are occurring

For example, We’re pretty good at solving each problem as it arises. But why are these problems recurring with greater frequency and intensity? What is causing them?


4. Identify Structure
Draw a Causal Loop Diagram
It is an easy way to begin building theory of why and how things are happening


5. Going deeper into the issues
Look at the underlying issues in order to move from understanding to action
To try to understand the underlying issues of this system



For example, People at bottling company theorised that customers were taking problem situations and escalating them into crises in order to get the company’s attention. 








6. Plan an intervention
Use your knowledge of the system to design solution that will structurally  change it to produce the results you want.
This might take the form of adding new link or loop that will produce desire behaviour, breaking a link or loop that produces undesirable behaviour, or a combination of the two

For example, at Bijou, the key to change was realising that the problems were largely self-inflicted . They realised that they had to make progress on production/ distribution system improvement while still doing enough fire fighting to keep things afloat. In the longer term, they would need to change the reward systems that promote heroic behaviour. They also recognised the need to sustain the improvement efforts even when the pressure came off - Otherwise the problems would be back again soon.


-----------------------------------------------------------
Systems Thinking - Practicing Case #2


Spiral of Death

1. Tell a Story

Read the following article and try to understand the situation











2.  Draw “Behaviour Over Time” graphs

Story telling focuses mostly on current moment.

Move to “Behaviour Over Time” will connect present to the past  And move from seeing the events to recognising patterns over time.

Draw One variable per graph
Time span should include Past to Present but it can also include the Future projection



3. Create a Focusing Statement  - Help setting direction of this process

Statement reflects a picture of what people want  OR questions why the certain problems are occurring

On the electricity company, What would be a suitable statement?


4. Identify Structure
Draw a Causal Loop Diagram
It is an easy way to begin building theory of why and how things are happening

5. Going deeper into the issues
Look at the underlying issues in order to move from understanding to action
To try to understand the underlying issues of this system

If we were the electricity company, what is our mental model?




6. Plan an intervention
Use your knowledge of the system to design solution that will structurally  change it to produce the results you want.
This might take the form of adding new link or loop that will produce desire behaviour, breaking a link or loop that produces undesirable behaviour, or a combination of the two





----------------------------------------------------------------------------------------------------



Systems Thinking Workshop - activity plan

(duration : 3 hrs )


First  15  mins  -  Check-in activity : Activity in Systems Thinking Playbook or Any particular Brain Gym games for getting the members ready for the following activities


2.  30 mins - Reflection from “Outlearning the Wolves” 
- What do members think about the story regarding the learning organization idea?
- Go thru the given questions 

3. 45 mins - Introducing Systems Thinking through Practicing Case #1
Members (in total of 7) work in 2 - 3 and 4 people - groups

4. 1:15 hour - Working on Practicing Case #2

5. 10 mins - Debriefing activities - What do members think about Systems Thinking ?  Debrief the members about the benefits and when to use the Systems Thinking.

6. Last 5 mins - HW :  Read another learning fable story - “The Tip of the Iceberg”



Data collection : Survey : Is yours is a learning organization ?





Sunday, October 4, 2015

ดูให้รู้ มัธยมต้น ค้นหาตัวเอง 前期中等教育(中学)

"Making Sense of the Chaos : From Data Mining to Data Meaning" - A Philips Design introduction to data


ARTICLE reveals how Philips Design is beginning to co-create in new and exciting ways thanks to its data visualization group, through digital innovation consulting, and at workshops in which enthusiasts from all walks of life come together to identify and develop
new value and meaning for people. 

Link : https://drive.google.com/open?id=0B0q-VaqUiVMuOUNtZjgySUgxVlU

Friday, October 2, 2015

Systems Thinking - Introduction

Systems Thinking

Systems Thinking can mean different things to different people. It is more than just a set of tools : Causal loop diagram, …

It could mean a sensitivity to the circular nature of the world we live in;  an awareness of the role of structure in creating the conditions we face; a recognition that there are powerful laws of systems operating that we are unaware of; a realisation that there are consequences to our actions that we are oblivious to.

Systems Thinking  is a disciplined approach for examining problems more completely and accurately before acting. It allows us to ask better questions before jumping to conclusions.

Systems Thinking often involves moving from observing events or data, to identifying patterns of behaviour over time, to surfacing the underlying structures that drive  those events and patterns

Systems thinking perspective requires Curiosity, Clarity, Compassion, Choice and Courage.

Why Use Systems Thinking?
It expands the range of choices available for solving a problem by broadening our thinking and helping us articulate problems in new and different ways.

Principles of systems thinking make us aware that there  are no perfect solutions; the choices we make will have an impact on other parts of the system.


When Should We Use Systems Thinking?
Ideal problems or issues  for Systems Thinking
The issue is important
The problem is chronic, not a one time event
The problem is familiar and has a known history
People have unsuccessfully tried to solve the problem before

Where should we Start?
When beginning to address the issue, Avoid assigning Blame!!!  e.g. People often come late to the training. Therefore these people are at fault.

Instead, focus on items that people seem to be glossing over and try to arouse the group’s curiosity about the problem under discussion. e.g. Asking question “What is it about this problem that we don't understand? “



Six Steps to thinking systematically

In the face of day-to-day pressure, groups often leap to solutions after only a modest amount of brainstorming. A systematic approach provides a structured problem solving process for digging deeper into our most vexing problem.

These six steps are

1.Tell the story
2.Draw “Behavior Over Times” graphs.
3.Create a focusing statement - A picture of what people want and a question about why certain problems are
4.Identify the structure - Draw Causal Loop Diagram
5.Going deeper into the issues - Look at the underlying issues in order to move from understanding to action
6.Plan the intervention - Might involve adding, strengthening, removing or weakening some of the  loops in the diagram to produce desired behaviour




How to coach and facilitate systems thinking ?

Systems thinking - A language for collective inquiry, learning, and action.

It is used in a group setting in order for people to learn together - To generate knowledge and understanding beyond what any one member of the group already know.


For facilitator,
Engage, don’t convince - We want everyone to be thinking hard about the problem at hand. It is important to get everyone engaged in creating a shared understanding.  Always suspend assumption, “Presume that every view has merit”, and “Pursue differences”
Treat Theory as Theory - Each drawn causal loop diagram is like a theory that needs to be validated. The validation could be done by asking “As you see it, how does X cause Y?    What is you rational? What are the data?  Can you give me an example?    Once obtain the answer, State your point of view and share your own line of reasoning.


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Learning Fable - #1 
Outlearning the wolves - Debriefing

Def : Learning - “Continually enhancing one’s capability create, think, relate, and act in productive ways”  
Learning is innate.

Organization - Finding ways to create the results it desires
To move toward a Sustaining and Transformational Change, people must deeply engage the change process emotionally and personally

Outlearning the wolves : 3 domains creating Organisational Learning
 1.Results  - an answer of  questions “Why Bother?”   : What are the measurable/ observable outcomes the organization wishes to create? 
     OW : “We will become a learning flock”
2. Domain of Action (Learning) - What we will do to achieve the results we desire?
The answer would be collective, co-ordinated actions in order for a learning culture to germinate.
  Domain of Action is consisted of
2.1. Guiding Idea  - “That the flock could achieve the results they desired by first explicitly discussing their beliefs about wolves”
           2.2 Theory/ Method/ Tool : Used to test guiding idea. It is reusable/ generalised area of knowledge and practices - “Meeting”
2.3  Innovation Infrastructure : Anything directing resources toward achieving the desired results. Could be just a simple innovation that can catalyse  dramatic learning   -Information gathering and Sharing network - “gather as much  information as possible about the wolves" 
          
3. Domain of Change (Deep Learning Cycle)  -  How will we pursue our goals?
When people learn, Changes take place in 3 areas
3.1.  New Skills and Capabilities : “How do we know when we are learning?” -> “When can do things we could not do before”      - e.g.  “Learn to push rock around with nose"
3.2.  New awareness and sensibilities : Enhanced insight and deeper understandings of complexity around you. Raised argument to challenge old beliefs could allow us to see the obvious element we could not notice before - e.g. “We all say the wolves cannot be stopped but what if it is not true”
        3.3   New attitude and belief - e.g. “Maybe wolves aren’t so smart after all. Maybe they really can be stopped"


Five Disciplines
1. Personal Mastery - Ability to create the results you want with an economy means. People with a deep sense of personal mastery are on a life-long journey of self discovery  e.g. Otto said "I have a dream .... "
2. Mental Model - Deeply held vision or set of beliefs and assumptions about how to world works    e.g. "The flock's belief that the wolves were unstoppable is a powerful example of how mental models can affect the way we experience the world.      It holds a great deal of power to us. In a  learning culture, individuals can release fierce need to defend and justify their mental models and become adept at challenging and "trying on" new ones
3. Shared Vision - People excel and learn, not because they are told to, but because they want to.    e.g. In this story  the vision tapped into sheep's own deepest aspiration - A desire to live free of fear.
4. Team Learning - Occurs when individuals within the system are aligned i a free-flowing whole as they work together. The phenomenon of an organization accomplishing something extraordinary requires a deep, transformational "Dialogue" in which team members can align in new, shared awareness about themselves and the world
5. Systems thinking - A field of study that examines the patterns and structures that govern nature families, the economy, our bodies, companies, and all other dynamic systems.  e.g. From the story, the flock's original cause0and-effect view of the world might be "Wolf gets hungry, wolf eats cheep"    But the sheep discovered that a more complex system was in play, whereby variables such as the weather, the wolves' limitations, and the flock's own biases all intersected and influenced one another in complex cause-and-effect relationships


Guiding questions from the Story
1. How might the metaphor in Outlearning the Wolves apply to your own organisation's ways of doing things?
2. Has your organization stated the results it is trying to achieve? If so, how do the intended results tap into your own aspiration?
3. What are some guiding ideas at work in your own organization? How do these ideas influence the theories, methods, and tools used in the organization and the infrastructure established?  Now discussed some possible new guiding ideas to introduce into your organisation.
4. What does it mean to engage people in the deep learning cycle? How does your organization make it attractive for individuals to choose to enter into this cycle?
5. How might the five disciplines help your organization develop new skills ands capabilities within the learning cycle?







Learning MS Power APP and FLOW

https://powerapps.microsoft.com/ro-ro/blog/microsoft-powerapps-learning-resources/